ระบบ Magento เป็นโปรแกรมที่มีหลากหลายแบรนด์ระดับโลกเช่น Lazada, BigC, Nike , Adidas , Lamboghini , ferrari, BMW เป็นต้น ที่เขาใช้ Magento สำหรับหน้าร้านขายสินค้าของเขา ซึ่ง Magento ก็เป็นเรื่องใหม่ของคนไทย โดย Magento  เป็นเครื่องมือเวปไชต์ที่เรียกว่าดีที่สุดสำหรับเว็ปไชต์ E-Commerce ก็ว่าได้สำหรับเวปไชต์ ที่ไม่มีโปรแกรมเมอร์ของตัวเองที่มีจำนวนมากนัก ที่จะเขียนระบบขึ้นเอง

ระบบหน้าร้าน (Front End) และหลังร้าน (Backend) ของ Magento จะมีส่วนเหมือนกับ CMS โปรแกรมอื่นๆ ในเรื่องของการแสดงสินค้าและให้ Webmaster เข้าไปจัดการสินค้าหลังร้านได้ไม่ว่าจะเป็นการสร้างหน้าร้านให้สวยงามดีไซน์ให้เหมาะกับธุรกิจอย่างไม่จำกัดรูปแบบ รวมไปถึงการติดตั้งและถอนโปรแกรมเสริมตัวอื่นๆ ได้อย่างอิสระ แต่ที่พิเศษสุดๆ ก็คือ Magento เป็น CMS ตัวเดียวรองรับภาษาไทยได้อย่างมีเสถียรภาพมากที่สุด

สิ่งที่ทำให้ Magento นั้นโดดเด่นกว่า CMS ตัวอื่นๆ ก็คือ Function เสริมหรือ Extensions ที่มีการปรับปรุงอยู่ตลอดเวลาและหลากหลาย มีทั้งแบบให้โหลดไปใช้กันฟรีๆ หรือเสียเงินเพิ่ม เพราะเป็น Open Source ซึ่งอนุญาตให้ผู้พัฒนาหรือผู้ที่มีความสนใจไปพัฒนาต่อเติมได้  อีกทั้ง Magento ถูกพัฒนาด้วยภาษา PHP และเชื่อมต่อฐานข้อมูลด้วย MySQL อีกทั้งยังมีความสามารถมาก ใช้งานได้ดีทั้งร้านค้าขนาดเล็กและขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นสูงและมีลูกเล่นที่น่าสนใจ ทำเว็บไซด์เร็วขึ้น ถือว่าเป็น CMS สำหรับ E Commerce platform ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน

ฟังก์ชั่นและฟีเจอร์หลักๆของ Magento

Magento Marketplace: แหล่งรวม extension กว่า 5000ตัว ที่จะช่วยให้แบรนด์สามารถเสริมประสิทธิภาพของเว็บไซต์ได้ เช่น การเพิ่มส่วนบล็อค เครื่องมือที่จะช่วยจัดการเซลสินค้าในระยะเวลาสั้นๆ(Flash Sale)  ฟีเจอร์ในการขยายภาพสินค้า และ ควบคุมสต๊อก ขนส่ง dropship และฟีเจอร์อื่นๆอีกมากมาย
การเชื่อมต่อ API : แบรนด์สามารถเชื่อมต่อระบบอื่นๆเข้ากับ Magento ได้ เช่น ระบบจัดการข้อมูล (CMS) หรือระบบจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM)  หรือแม้กระทั่งแอพพลิเคชั่นของโทรศัพท์มือถือ
ธีม(Themes) : ระบบ Magento มีธีมมากมายให้แบรนด์เลือกใช้เพื่อปรับแต่งการจัดวางและดีไซน์ของเว็บไซต์ โดยที่จะไม่กระทบต่อโค้ดหลักของของระบบซึ่งอาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดได้
ระบบการจัดการส่วนกลาง : แบรนด์สามารถจัดการหน้าเว็บไซต์หลายเว็บไซต์ได้ผ่านระบบหลังบ้านเดียว นั่นหมายความว่าบริษัทหนึ่งสามารถมี 3 เว็บไซต์ และ จัดการข้อมูลของลูกค้า ข้อมูลและหมวดหมู่ของสินค้าผ่านแพลทฟอร์มเดียวกัน
ระบบกำหนดราคา : Magento มีฟังก์ชั่นในการตั้งราคาสินค้าและโปรโมชั่นทางการตลาดที่หลากหลาย เช่น โปรโมชั่นซื้อสินค้า 1 ชิ้น รับส่วนลด 10%  บวกฟรีค่าจัดส่ง
โปร์โมชั่น : Magento มีฟังก์ชั่นในการกำหนดโปร์โมชั่นเป็นคูปองส่วนลด และสามารถกำหนดรูปแบบคูปองในการใช้งานได้